สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่ทำให้คุณแม่กังวลใจ
มีวิธีรับมือและดูแลอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

ปัญหาของลูกน้อย หรือภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กทารก บ่อยครั้งที่ทำให้คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่มีความวิตกกังวล
ซึ่งบางอาการก็เป็นอาการปกติของเด็กที่สามารถหายเองได้ แต่บางปัญหาก็รบกวนสุขภาพร่างกายและจิตใจของลูกน้อย
โดยเราได้รวบรวมสารพัดปัญหาที่มักเกิดขึ้นในเด็กทารก เช่น ลูกงอแง ลูกร้องไห้ไม่หยุด ลูกท้องอืด
มีปัญหาผิวหนัง หรือมีอาการไม่สบายตัวจากผื่นผ้าอ้อม ผื่นคัน ผื่นแพ้ต่างๆ
พร้อมแนวทางการดูแล และการรับมือในแต่ละปัญหามาฝากกันค่ะ

1. ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก

มีอาการตุ่มแดง หรือตุ่มน้ำใส คันตามผิว พบมากบริเวณใบหน้า และด้านนอกของแขนขา แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน โดยอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมาก่อน อาการเหล่านี้คุณแม่ควรรับมือด้วย การหลีกเลี่ยงการอาบน้ำบ่อยจนเกินไป งดอาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิอุ่นเกินไป แนะนำให้ทาครีมหรือน้ำมันบำรุงผิวหลังอาบน้ำทันที โดยเน้นส่วนผสมที่ปลอดภัยสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยน ผ่านการรับรองว่าไม่แพ้ และมีส่วนประกอบของคาลาไมน์ ซึ่งช่วยทำให้ลดการอักเสบของผิว และอาการคันจากผื่นภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี

2. กลากน้ำนม

มีลักษณะเป็นผื่นวงกลมหรือวงรี สีออกขาว จางกว่าผิวหนังปกติ หรืออาจมีขุยติดอยู่รอบ ๆ พบบ่อยบริเวณใบหน้า คอ ไหล่และแขน รับมือโดยการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวลูกถูกแสงแดดจัดโดยตรง และทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการคันอย่าง คาลาไมน์ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของลูกน้อย

3. ทารกเป็นผื่นผ้าอ้อม ผื่นแพ้ ผื่นคัน

ลักษณะเป็นตุ่มหรือปื้นแดงบริเวณต้นขาด้านใน ก้น หรือใกล้ ๆ อวัยวะเพศ สาเหตุมาจากการเสียดสีหรือความอับชื้นจากการสวมใส่ผ้าอ้อมนานเกินไป คุณแม่ดูแลด้วยการเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ ทาขี้ผึ้ง วาสลีน หรือครีมบำรุงผิวที่เน้นการฟื้นฟูบำรุงด้วยส่วนผสมหลักของ วิตามินอี โคโคนัทออยล์ และโจโจบาออยล์ ที่ปราศจากสารระคายเคือง ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ และควรมีส่วนผสมของคาลาไมน์ ที่ช่วยลดการอักเสบของผิวและอาการคัน เพื่อให้ลูกสบายผิว ไม่เปียกชื้น เหนอะหนะ และระคายเคืองจากการใส่ผ้าอ้อมทั้งวัน

4. ลูกร้องโคลิก ลูกร้องไห้ไม่หยุด

อาการของเด็กที่ร้องโคลิก จะร้องเสียงดัง เสียงสูง หน้าท้องเกร็ง ร้องไห้ไม่หยุด นานเป็นชั่วโมง ปลอบให้หยุดได้ยาก พบอาการร้องโคลิกบ่อยที่สุดในช่วงเย็น – ช่วงค่ำ (ประมาณ 6 โมงเย็น – 4 ทุ่ม) แก้ด้วยการพาลูกทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พาลูกออกไปนั่งรถเล่น อุ้มลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน คอยปลอบ ลูบหลัง เปิดเพลงช้า ๆ เบา ๆ ให้ลูกฟัง ก็อาจช่วยให้ลูกสงบลงได้ และอีก 1 สาเหตุของอาการโคลิคที่พบได้มากที่สุดคือ ในทารกและเด็กเล็กนั้นระบบย่อยอาหารยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย (มีอาการแหวะนม) ส่งผลให้ทารกอึดอัด แน่นท้อง ปวดเสียดท้อง การใช้มหาหิงค์ทาบริเวณท้องรอบสะดือของลูก จะช่วยไล่ลม ลดอาการท้องอืด กระตุ้นการทำงานข้องระบบย่อยอาหาร อีกทั้งกลิ่นของมหาหิงค์ช่วยให้ลูกน้อยสงบ ผ่อนคลาย บรรเทาอาการร้องโคลิกได้

5. ลูกท้องอืด ไม่สบายท้อง ลูกร้องไห้โยเย

อาการท้องอืดของลูกน้อย สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ยังเป็นทารกอายุประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ โดยจะมีอาการร้องไห้ ยกขาขึ้นสูงไปทางหน้าท้อง ดิ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังจากดื่มนม กำมือแน่น ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง แก้ไขได้ด้วยการอุ้มทารกขึ้นพาดบ่า ให้คางพักอยู่บริเวณไหล่ของแม่ แล้วใช้มือตบหลังทารกเบา ๆ เพื่อให้ลูกผายลมหรือเรอออกมาก็จะช่วยได้ หรือใช้มหาหิงค์ทาบริเวณท้อง รอบสะดือของลูก ก็ช่วยขับลม กระตุ้นการทำงานของลำไส้ และบรรเทาอาการท้องอืด อึดอัดท้องได้ดีเช่นกัน แต่หากลูกยังร้องไห้ไม่หยุด ควรพาไปพบแพทย์เพราะอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กรดไหลย้อน ท้องผูก เป็นต้น

แม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยจะไม่ได้มีความอันตรายหรือรุนแรงมาก แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ ก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้สุขภาพร่างกายและสภาพอารมณ์ของลูกแย่ลง ทั้งยังอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตในระยะยาว เนื่องจากพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำกิจกรรม การเรียนรู้ และพัฒนาการของลูกในอนาคต ดังนั้น การดูแล บรรเทา หรือป้องกันการเกิดอาการจุกจิกเหล่านี้ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ต่อตัวของลูกรัก และช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องเห็นลูกร้องไห้เพราะไม่สบายตัวบ่อย ๆ อีกต่อไปค่ะ

Credit: TheAsianparent